บทความ Perfume

Fragrance Notes คืออะไร

มารู้จักกับ “Fragrance Notes”

หากเปรียบเป็นบทเพลงที่สร้างสรรค์ขึ้นมาจากตัวโน๊ตมากมาย น้ำหอมเองก็คงจะไม่ต่างกัน การทำความเข้าใจโน๊ตในน้ำหอมก็คือการเข้าใจกลิ่นต่างๆที่แฝงและแทรกอยู่ในน้ำหอม

โดยทั่วไปน้ำหอมที่เราใช้กันประกอบไปด้วยโน๊ตต่างๆซึ่งถือว่าเป็นกุญแจหลักซึ่งมีความสำคัญในการทำให้น้ำหอมแต่ละกลิ่นมีเอกลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นดอกไม้ ผลไม้ กลิ่นหนัง กลิ่นดินชุ่มน้ำ หรือแม้แต่กลิ่นหอมสดชื่นของอากาศหลังฝนตก

การจะปรุงน้ำหอมกลิ่นๆ 1 ขึ้นมานั้นเราจำเป็นจะต้องมีผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านกลิ่นหรือที่เราเรียกว่า Perfumer เป็นผู้ผสม คิดค้นและปรุงน้ำหอมขึ้นมา

โน๊ตน้ำหอม คืออะไร

โน๊ตน้ำหอม ประกอบด้วยชั้นของกลิ่นที่แตกต่างกัน ประกอบรวมกันเป็นกลิ่นหอมสุดท้าย ซึ่งชั้นต่างๆของกลิ่นเหล่านี้แบ่งออกเป็นสามองค์ประกอบที่แตกต่างกัน

โน๊ตในน้ำหอมจะถูกแบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 เลเยอร์ ได้แก่ Top Notes, Middle Notes (Heart Notes) และ Base Notes

ทั้งสามองค์ประกอบนี้ ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างกลิ่นหอมที่สมบูรณ์แบบ หากขาดองค์ประกอบใดไป กลิ่นของน้ำหอมก็คงจะเป็นเพียงแค่กลิ่นทื่อและด้าน ไร้ซึ่งอารมณ์และความรู้สึก

Top Notes (โน๊ตเปิดตัว)

Top Notes คือกลิ่น opening notes หรือกลิ่นแรกที่เราจะสัมผัสได้ทันทีและจะค่อยๆจางไปภายใน 5-15 นาที แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า Top notes จะด้อยไปกว่าโน๊ตตัวอื่นๆเพราะมันคือสัมผัสแรกที่สร้างความหลงไหลและจะนำพาเราไปสู่โน๊ตตัวถัดไปซึ่งคือ Middle notes 

 

บางคนอาจสงสัยว่าแล้ว Top notes มีความสำคัญอย่างไร หากจะให้เราเปรียบเทียบ ก็คงเปรียบเปรยเหมือนความประทับใจเมื่อแรกพบที่ทำให้เราจะรู้จักกับน้ำหอมขวดนั้นๆ ถึงแม้มันอาจไม่ใช่องค์ประกอบหรือกลิ่นที่ติดทนนานที่สุด แต่กลับเป็นสิ่งแรกที่คุณจะได้สัมผัสเพื่อนำทางคุณไปสู่โน๊ตตัวต่อๆไป 

 

Top notes โดยส่วนมากจะนิยมใช้กลิ่นผลไม้ตระกูลซิตรัส (มะกรูด, มะนาว, ผิวส้ม), ดอกไม้ต่างๆ  (มะลิ, กุหลาบ, ดอกส้ม) และสมุนไพรสด (โหระพา, เสจ, ลาเวนเดอร์)

Middle Notes หรือ Heart Notes

Middle notes หรือ Heart notes โดยหากแปลตามตัว ก็คงหมายถึงโน๊ตหัวใจ ซึ่งก็คือใจกลางของกลิ่นหอม  ชั้นกลิ่น Middle notes ถือว่าเป็นรากฐานของน้ำหอมทุกขวดซึ่งจะอยู่ได้นานประมาณ 20-60 นาทีโดยมันจะเป็นตัวเชื่อมสอดประสานระหว่าง Top notes และ Base Notes เข้าด้วยกันอย่างลงตัว

Middle notes จะเริ่มปรากฏขึ้นก่อนที่ Top notes จะค่อยๆจางหายไป และจะเป็นกลิ่นนำเพื่อขยายกลิ่น Base notes ซึ่งเป็นโน๊ตตัวสุดท้ายให้เด่นชัดขึ้น

 

โดยทั่วไปแล้ว Middle notes นั้นส่วนใหญ่มันจะเป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกสบายๆและกลมกล่อม ด้วยเหตุนี้ กลิ่นต่างๆที่มักถูกนำมาปรุงใน middle notes คือ ซินนามอน กุหลาบ กระดังงา ตะไคร้ และเนโรลี 

Base Notes

และในที่สุดเราก็เดินมาถึงโน๊ตตัวสุดท้ายของบทเพลงนี้ นั่นก็คือ Base notes โดย Base Notes จะเริ่มปรากฏกายขึ้นมาเมื่อ Middle notes เริ่มจางหายไปจนหมด ในชั้น Base notes เพียงอย่างเดียวประกอบด้วยกลิ่นหอมราวๆ 10-25% ของกลิ่นหอมชั้นสุดท้าย อย่างไรก็ตาม กลิ่น Base notes ยังมีหน้าที่สอดประสานกลิ่นระหว่างของชั้นโน๊ตตัวเองและ Middle notes เพื่อเพิ่มความซับซ้อนของกลิ่นน้ำหอม

ในขณะที่ซึ่ง Top notes สร้างความประทับใจแรก Middle notes จะช่วยเสริมให้กลิ่นทุกอย่างชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อ Top notes ค่อยๆจางลงไป 

ตามมาด้วย Base notes โน๊ตตัวสุดท้ายที่เปรียบเหมือนแสงสุดท้ายก่อนที่อาทิตย์จะอัสดงโดยกลิ่นที่มักจะถูกเลือกใช้ใน Base notes ได้แก่ ไม้ซีดาร์, ไม้จันทน์, วนิลา, แพทชูลี่และมัสค์

by Tasmin Lofthouse

source: https://www.ilovecosmetics.co.uk/blog/what-are-fragrance-notes/